วิทยาศาสตร์แสนสนุก

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553

เซลล์และส่วนประกอบของเซลล์

ความหมายของเซลล์
เซลล์ คือ หน่วยโครงสร้างที่เล็กที่สุดของสิ่งมีชีวิต ทำหน้าที่เป็นทั้งหน่วยโครงสร้างและหน้าที่ของการประสานงานและการเจริญเติบโตของสิ่งมีชีวิต สิ่งมีชีวิตที่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้นั้นก็เนื่องจากความมีชีวิตของเซลล์ ในการเกิดเซลล์ใหม่ก็เกี่ยวข้องกับกระบวนการถ่ายทอดพันธุกรรมจากเซลล์หนึ่งไปเซลล์หนึ่ง และกิจกรรมต่างๆของสิ่งมีชีวิตก็ขึ้นอยู่กับกิจกรรมของเซลล์
ขนาดของเซลล์
มีขนาดต่างกันมากมาย เซลล์ที่มีขนาดเล็กที่สุด คือ ไมโครพลาสมา (Mycoplasma) หรือ PPLO (Pleuropneumonia-like Organism) เป็นเซลล์ที่ประกอบด้วยสารพันธุกรรมที่ไม่มีเยื่อหุ้มนิวเคลียส ไรโบโซม เยื่อหุ้มเซลล์และเอมไซม์ที่จำเป็นประมาณ 40 กว่าชนิดเท่านั้น เซลล์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ เซลล์ไข่นกกระจอกเทศ ในการวัดขนาดของเซลล์ ใช้มาตร
โครงสร้างพื้นฐานและรูปร่างของเซลล์
เซลล์ของสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ มีรูปร่างต่างกันหลายลักษณะ เนื่องจากมีสารพันธุกรรม หรือหน้าที่แตกต่างกันเช่น เซลล์เม็ดเลือดแดงมีรูปร่างเป็นทรงกลมเว้าด้านข้าง ช่วยให้สามารถแลกเปลี่ยนก๊าซได้ดี และเคลื่อนที่ไปตามหลอดเลือดฝอยได้สะดวก เซลล์กล้ามเนื้อลายรูปร่างแหลมหัวแหลมท้าย เหมาะกับการยืดหดตัว ส่วนเซลล์ประสาทมีรูปร่างยาวและส่วนยื่นแตกแขนงออกไปสำหรับส่งและรับกระแสประสาท เป็นต้น นอกจากนี้ พบว่า แรงตึงผิวและความหนืดของโพรโทพลาสซึม ความแข็งเรงของเยื่อหุ้มเซลล์ ตลอดจนสิ่งต่างๆของเซลล์ข้างเคียงจะมีอิทธิพลต่อรูปเซลล์ได้ด้วย
ส่วนประกอบของเซลล์สัตว์
1. เยื่อหุ้มเซลล์(Cell Membrane) มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ ทำหน้าที่ควบคุมการเข้าออกของสาร
2. ไซโทพลาสซึม (Cytoplasm) เป็นของเหลวมีสิ่งต่างๆปนอยู่ เช่น ส่วนประกอบของเซลล์อื่น น้ำ อาหาร อากาศ
3. นิวเคลียส เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุด มีลัษณะค่อนข้างกลม ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ การเจริญเติบโตตลอดจนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อแม่ไปสู่ลูกหลาน


ส่วนประกอบของเซลล์พืช
1.ผนังเซลล์ (Cell Wall) เป็นส่วนทีอยู่นอกสุด ทำหน้าที่กั้นส่วนภายในของเซลล์แต่ละเซลล์ สร้างความแข็งแรง ทำให้เซลล์คงรูปร่างอยู่ได้ มีช่องสำหรับให้สารต่างๆผ่านเข้าออกเซลล์ได้ ผนังเซลล์ใบไม้ ดอกไม้ จะเปื่อยยุ่ยง่าย ถ้าเป็นพวกเนื้อไม้ เปลือกผลไม้แข็ง ผนังเซลล์จะหนาและทนทาน ในเซลล์ของสัตว์เราจะไม่พบผนังเซลล์
2.เยื่อหุ้มเซลล์ (Cell Membrane) มีลักษณะเป็นเยื่อบางๆ ประกอบด้วยสารประเภทไขมันและโปรตีน ทำหน้าที่ควบคุมการผ่านเข้าออกของสารบางอย่าง เช่น น้ำ อากาศ และสารละลายต่างๆ
3.ไซโทพลาสซึม (Cytoplasm) อยู่ระหว่างเยื่อหุ้มเซลล์กับนิวเคลียส มีลักษณะเป็นของเหลวที่มีสิ่งต่างๆปนอยู่ เช่น น้าตาล ไขมัน โปรตีนและของเสียอื่นๆ ไซโทพลาสซึมในพืชมีเม็ดสีเขียวที่เรียกว่า คลอโรพลาสต์ (Cholroplast) ประกอบด้วย (ในสัตว์ไม่มี)
a.นิวเคลียส เป็นส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดของเซลล์ในไซโทพลาสซึม มีลักษณะค่อนข้างกลม ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของเซลล์ การเจริญเติบโตตลอดจนการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จาก พ่อแม่ไปสู่ลูกหลาน ในนิวเคลียสจะมีส่วนประกอบ 2 อย่าง คือ b.นิวคลีโอลัส (Nucleolus) ประกอบด้วยสารประกอบ DNA (Deoxyribonucleic Acid) และ RNA (Ribonucleic Acid) เป็นส่วนใหญ่ และเป็นแหล่งสร้างไลโบโซม แล้วไหลออกสู่ ไซโทพลาสซึม ผ่านทางช่องเยื่อบุนิวเคลียส เพื่อทำหน้าที่สังเคราะห์โปรตีนให้แก่เซลล์ แล้วส่งออกไปนอกเซลล์
4.โครมาทิน(Chromatin) ร่างแหของโครโมโซม (Chromosome) ประกอบด้วย DNA หรือที่เรียกว่า จีน (Gene) และมีรหัสพันธุกรรม (Genetic Code) ทำหน้าที่ควบคุมการสร้างโปรตีนและ DNA5.แวคคิวโอล (Vacuole) พบได้ทั้งเซลล์พืชแลเซลล์สัตว์ แต่ในเซลล์พืชจะมีขนาดใหญ่กว่า ทำหน้าที่ผ่านเข้าออกของสารระหว่างแวคคิวโอลและไซโทพลาสซึม เป็นที่พักและที่เก็บสะสมของเสียก่อนถูกขับออกจากเซลล์

5.แวคคิวโอล (Vacuole) พบได้ทั้งเซลล์พืชแลเซลล์สัตว์ แต่ในเซลล์พืชจะมีขนาดใหญ่กว่า ทำหน้าที่ผ่านเข้าออกของสารระหว่างแวคคิวโอลและไซโทพลาสซึม เป็นที่พักและที่เก็บสะสมของเสียก่อนถูกขับออกจากเซลล์

ไม่มีความคิดเห็น: